ทุกวันนี้บัตรเครดิตเป็นบัตรที่ใครๆ ต่างก็มีเอาไว้ติดกระเป๋า ด้วยเหตุผลของความสะดวกสบายในการใช้จ่ายและมีความปลอดภัย อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นและข้อเสนอดีๆ มากมายจากการเป็นเจ้าของบัตร ซึ่งทำให้ผู้ถือบัตรได้สิทธิประโยชน์ต่างๆ มากขึ้นนอกเหนือจากการจ่ายด้วยเงินสดที่อาจจะไม่ได้รับข้อเสนอหรือเงื่อนไขดีๆ ในการใช้งานมากนัก
บัตรเครดิต มีกี่ประเภท
เนื่องจากบัตรเครดิตมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท และแต่ละประเภทก็มีเงื่อนไขและประโยชน์ในการใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับบัตรเครดิตแต่ละประเภทกันให้มากขึ้น
1.บัตรเครดิตที่แบ่งตามขอบเขตการใช้งาน
สำหรับบัตรเครดิตที่แบ่งตามขอบเขตการใช้งาน สามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังต่อไปนี้
International Credit card
เป็นบัตรเครดิตที่สามารถใช้งานได้ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ อย่างเช่น American Express, VISA และ Master card เป็นต้น
Local Credit card
เป็นบัตรเครดิตที่ใช้ได้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้ที่ต่างประเทศได้ เช่น บัตรเครดิตของธนาคารกรุงศรีอยุธยา และบัตรเครดิตกรุงไทยคลาสสิค เป็นต้น
Store Card หรือ Private Label card
เป็นบัตรเครดิตที่ใช้เฉพาะร้านค้าบางแห่งเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้ในร้านค้าอื่นๆ ทั่วไปได้ เช่น บัตรเครดิตเทสโก้โลตัส และบัตรเครดิตเซ็นทรัล เป็นต้น
2.บัตรเครดิตที่แบ่งออกตามประเภทของการใช้งาน
สำหรับบัตรเครดิตที่แบ่งออกตามประเภทของการใช้งานก็มีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ดังต่อไปนี้
Charge Card
เป็นบัตรเครดิตที่ใช้ในการชำระค่าบริการต่างๆ ในการเดินทางท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่แล้วบัตรเครดิตประเภทนี้จะไม่ค่อยมีการจำกัดวงเงินค่าใช้จ่ายล่วงหน้า เพราะผู้ถือบัตรสามารถชำระยอดค่าใช้จ่ายให้เสร็จสิ้นไปในแต่ละครั้งโดยไม่มียอดค้างจ่ายให้เสียค่าดอกเบี้ย ซึ่งกลุ่มผู้ถือบัตรเครดิตประเภทนี้มักจะเป็นกลุ่มนักธุรกิจหรือคนที่มีฐานะทางการเงินดี
Bank Card หรือ Credit Card
เป็นบัตรเครดิตที่ผู้ถือบัตรสามารถนำไปใช้จ่ายในด้านของการชำระค่าใช้จ่ายสินค้าและบริการต่างๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายในส่วนของบิลประจำต่างๆ เช่น ค่าน้ำ, ค่าไฟฟ้า รวมทั้งใช้ในการผ่อนสินค้าที่มีราคาสูงโดยแบ่งชำระเงินคืนเป็นงวดไป บัตรเครดิตประเภทนี้เป็นบัตรที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่คุ้นเคยกันดี เพราะเป็นบัตรที่ต้องใช้งานเป็นประจำในชีวิตประจำวัน
Private Label หรือ Store Card
เป็นบัตรเครดิตแบบพิเศษที่ออกโดยห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าใหญ่ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้านำมาใช้ในการซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆ ภายในห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าที่ออกบัตร ซึ่งประโยชน์ของบัตรชนิดนี้ก็คือการกระตุ้นยอดหรือส่งเสริมการขายของห้างร้านโดยอาจจะมีส่วนลดพิเศษหรือโปรโมชั่นที่น่าสนใจ บัตรเครดิตชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มักช็อปปิ้งซื้อของในห้างร้านดังกล่าวเป็นประจำ
3.บัตรสำหรับการใช้จ่ายประเภทอื่นๆ
นอกจากนี้ที่เราแนะนำประเภทหลักๆ ไปในเบื้องต้นแล้ว ก็ยังมีบัตรสำหรับใช้จ่ายอื่นๆ ที่เรามักพบเห็นกันบ่อยๆ โดยประกอบไปด้วย
Cash card หรือบัตรเงินสด
เป็นบัตรเครดิตที่มีลักษณะคล้ายกับบัตรเอทีเอ็ม ซึ่งผู้ถือบัตรสามารถนำไปกดเงินสดได้ล่วงหน้า โดยที่ยังไม่มีการหักเงินจากบัญชีธนาคารของผู้ใช้ มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการเงินสดฉุกเฉินในการใช้งาน แต่ข้อด้อยก็คือ มีการคิดดอกเบี้ยในอัตราสูง ดังนั้นจึงควรพิจารณาใช้เฉพาะเมื่อเวลามีความจำเป็นมากจริงๆ เท่านั้น
Debit card
เป็นบัตรสำหรับใช้จ่ายที่จะมีการหักเงินจากบัญชีของผู้ถือบัตรทันทีที่มีการใช้จ่าย โดยไม่ได้เป็นการให้เครดิตวงเงินล่วงหน้า ซึ่งข้อดีก็คือ ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยและทำให้ผู้ถือบัตรสามารถบริหารจัดการวงเงินค่าใช้จ่ายได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะใช้จ่ายเกินตัว
ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดของบัตรเครดิตประเภทต่างๆ ที่มีการใช้งานอยู่จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกสมัครบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ในการใช้งานเพื่อที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้บัตร ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อด้อยที่แตกต่างกันออกไปเพื่อให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้งานได้ตามความต้องการ