เงินไม่หาย หากรู้จักกระจายความเสี่ยง

เคยสังเกตเห็นหลายคนนำเงินไปเก็บ ไปลงทุน ในลักษณะของการนำเงินไปกองจมอยู่กับอะไรแค่เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งแต่เพียงอย่างเดียว แท้จริงแล้ว “เงิน” ยังทำอะไรได้อีกหลายอย่าง เพราะการนำไปทุ่มลงในอะไรก้อนใดก้อนหนึ่งเพียงก้อนเดียวนั้น มันอันตรายมากกว่าที่คุณคิด เพราะหากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น คุณอาจถึงขั้นหมดตัวเลยทีเดียว หรือหากเบาลงมาหน่อย ก็เป็นเพียงแค่เงินเย็น ไม่ทำให้งอกเงยแต่ก็ไม่ขาดทุน แม้ว่าเวลาจะผ่านไปอย่างยาวนานหลายปี

ลองคิดดูเล่น ๆ หากคุณเก็บเงินทั้งหมดไว้ในบ้านแค่เพียงจุดเดียว อาจจะเป็นในลิ้นชักหรือตู้เซฟอะไรก็แล้วแต่ แล้ววันดีคืนดีมีโจรปล้นบ้าน เค้าดันเปิดลิ้นชักเปิดเก๊ะของคุณได้ และนำเงินของคุณไปหมด ทีนี้คุณจะเหลืออะไรล่ะคะ ผลลัพธ์คือหมดตัวหมดกัน เงินที่อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบหายหมด ทีนี้ความดราม่าบังเกิด เศร้าสร้อยเหงาหงอยกันไปอีก กว่าจะเก็บได้ใหม่ให้เท่าก้อนเดิมก็ต้องใช้เวลา

ในทางกลับกัน หากคุณนำเงินไปกระจายเก็บหลบซ่อนไว้ตามจุดต่าง ๆ สัก 4-5 ที่ โอกาสที่เงินจะโดนปล้นไปทั้งหมด ก็มีน้อยลง

เพราะฉะนั้น หากไม่อยากให้ “เงินหาย” เราก็ต้องกระจายความเสี่ยง การกระจายความเสี่ยงในที่นี้หมายถึง นำเงินเก็บไปกระจายให้เกิด ทั้งในระยะสั้นและยาว ตามวิธีการที่เรากำลังจะแนะนำ ดังนี้ค่ะ

 

  1. แบ่งส่วนหนึ่งเก็บออมธรรมดาหรือฝากประจำ

ก็ง่าย ๆ ค่ะ ตรงตัว วิธีการดั้งเดิมแต่ไหนแต่ไร แต่ก็ไม่ควรทุ่มมาลงในส่วนนี้ทั้งหมดนะจ๊ะ ต้องกระจายไปลงแบบอื่น ๆ ด้วย เพราะวิธีนี้ อาจทำให้เงินของคุณกลายเป็นเงินเย็นหรือเงินขึ้นมาเพิ่มเติม เป็นเงินจำนวนน้อยนิด ซึ่งหากฝากต่อไปทั้งหมดในระยะยาว ก็คงไม่ค่อยคุ้มค่าสักเท่าไหร่ แถมบางบัญชี มีการเก็บภาษีเงินฝากด้วย เพราะฉะนั้น ฝากแบบนี้อย่างเดียวคงไม่สนุกแน่ ๆ

 

  1. แบ่งนำไปลงทุนในหุ้น

ยิ่งนับวันก็ยิ่งมีผู้ที่สนใจเรื่องนี้ในช่วงจังหวะอายุต่ำลง ๆ เรื่อย ๆ นั่นหมายถึงมีคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่หันมาสนใจการลงทุนประเภทนี้เป็นจำนวนมาก นั่นก็เพราะหากมีการวางแผนและเก็งกำไรเป็น จะได้รับเงินมาอย่างง่ายดาย แถมหุ้นบางประเภทในปัจจุบัน ใช้เงินเริ่มต้นไม่สูงมากนัก

แต่การแบ่งไปลงทุนประเภทนี้ ก็ควรอ่านรายละเอียดให้ชัดเจน หากไม่เชี่ยวชาญในการ Trade มากพอ อาจจะนำไปกระจายใน LTF แบบผสมแทนก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะแต่ละสถาบันจะมีทีมงานคอยดูแลผลประโยชน์ให้กับคุณ แถมความเสี่ยงก็ต่ำกว่าอีกด้วย

 

  1. แบ่งนำไปซื้อประกันแบบออมทรัพย์

เป็นอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะตอนนี้หลายสถาบันต่างออกผลิตภัณฑ์แบบนี้ให้เลือกกันเยอะแยะมากมาย

นอกจากการแบ่งไปออมและลงทุนตาม 2 ข้อแรกที่ได้แนะนำไปแล้ว ลองแบ่งส่วนหนึ่งมาซื้อประกันประเภทนี้กันดูบ้างค่ะ เป็นการออมเงินระยะยาวในอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความเสี่ยงน้อย แถมยังได้พ่วงประกันมาอีก คือมันดีมากจริง ๆ ค่ะ

 

  1. แบ่งไปเก็บในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในอัตราที่สูงขึ้น(ถ้ามี)

หลายคนที่ทำงานในองค์กรที่มีการใส่ใจต่อความเป็นอยู่ของพนักงาน จะมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อเป็นผลดีทางด้านการออมเงินของพนักงานในอนาคตหรือในวันเกษียณ ไหน ๆ เค้าก็ต้องหักเงินเดือนของคุณทุกเดือนเข้ากองทุนในส่วนนี้อยู่แล้ว หากอยากมีเงินก้อนโตหลังจากลาออกหรือหลังเกษียณ ก็ลองไปเพิ่ม % ให้มากขึ้นดูค่ะ หากไหว ต้องขอย้ำว่า หากไหว! เพราะมันจะเป็นการออมแบบลืมไปเลย คุณเองก็มีหน้าที่รอรับเงินก้อนโตแบบชิลล์ ๆ ไป แค่นั้นเองค่ะ

  1. แปลงเงินเป็นทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดผลกำไรในอนาคต

นอกจากการเก็บเงินแบบ 4 ข้อที่กล่าวไปแล้ว สินทรัพย์บางอย่างอาจสร้างรายได้กลับมาต่อเดือนให้กับคุณหรืออาจมีมูลค่ามากขึ้นในอนาคต

การนำเงินมาแปลงเป็นสินทรัพย์เพื่อเก็งกำไร วิธีการนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นการซื้อคอนโดฯหรือบ้านแล้วปล่อยเช่า การซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลดี ๆ เผื่อขายในอนาคต, ซื้อที่ดินหรือซื้อทองเพื่อเก็งกำไรเป็นต้น

 

เพราะฉะนั้น หากไม่อยากให้เงินหายวับไปอย่างรวดเร็ว หรือเก็บเงินอย่างเดียวโดยไม่ได้ทำให้ดอกผลใด ๆ เลย ก็ลองนำมากระจาย ๆ ความเสี่ยงกันดูค่ะ อย่างน้อยเงินเก็บก็ไม่ได้เป็นเงินเก็บเฉย ๆ อีกต่อไป ไม่ได้จากส่วนนี้ เราก็อาจจะได้กับอีกทางหนึ่ง อย่างน้อยการกระจายไปหลาย ๆ ทางก็ย่อมดีกว่าให้เงินจมหรือเสี่ยงที่จะสูญหายจากการทุ่มไปในรูปแบบเดียวอย่างแน่นอน แถมเป็นผลดีในระยะยาวอีกด้วยค่ะ