เบาหวานเป็นอีกหนึ่งโรคที่มีผู้ป่วยมากที่สุดในประเทศไทย เบาหวานเป็นโรคที่อันตรายและใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากร่างกายขาดฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ไม่สามารถดูดซึมน้ำตาลในเลือดให้ไปใช้เป็นพลังงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายจนเกิดภาวะน้ำตาลสะสมในเลือดในปริมาณที่มาก โดยคุณควรหมั่นสังเกตร่างกายเป็นประจำ หากมีอาการดังต่อไปนี้อาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณอาจจะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานอยู่ก็เป็นได้ อาการที่ว่านี้มีอะไรบ้างมาดูกันเลยดีกว่า
7 อาการเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
1. มีอาการกระหายน้ำ ดื่มน้ำบ่อย
มีอาการกระหายน้ำบ่อยๆ เนื่องจากว่าไตไม่สามารถกรองน้ำตาลกลับเข้าไปในเลือดได้จึงขับออกมาเป็นปัสสาวะในปริมาณที่มาก จนทำให้เกิดความกระหายน้ำบ่อยๆ เนื่องจากร่างกายเกิดอาการขาดน้ำ ทำให้ต้องมีการดื่มน้ำในปริมาณมากๆ เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียกลับเข้าไปทดแทนหากร่างกายเกิดภาวะสูญเสียน้ำในปริมาณที่มากอาจส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการช็อคได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
2. ปัสสาวะบ่อยและมีปริมาณมาก
หากมีอาการปัสสาวะบ่อยและมีปริมาณที่มากให้สงสัยได้ว่าอาจจะเป็นโรคเบาหวานได้เนื่องจากว่า ฮอร์โมนอินซูลินจะเป็นตัวนำน้ำตาลไปยังเซลล์ต่างๆ เพื่อให้ใช้เป็นพลังงานแต่ในร่างกายของผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานจะพบว่าตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินหรือหลังออกมาในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกายหรือฮอร์โมนอินซูลินที่ผลิตออกมาไม่สามารถทำงานได้ปกติจึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากกว่าปกติและไตที่มีหน้าที่กรองของเสียออกจากเลือดก็ไม่สามารถกรองน้ำตาลกลับเข้ามาสบู่เลือดได้น้ำตาลและน้ำบางส่วนจึงถูกขับออกมาทางปัสสาวะทำให้ปัสสาวะบ่อยและมีปริมาณมากปกตินั่นเอง
3. สองเบลอคิดอะไรไม่ค่อยออก
มีอาการสมองเบลอหรือสมองไม่แล่น เมื่อฮอร์โมนอินซูลินที่คอยทำหน้าที่ลำเลียงน้ำตาลกลูโคสไปใช้เพื่อเป็นพลังงานในส่วนต่างๆ ของร่างกายไม่เพียงพอส่งผลให้เกิดอาการอ่อนล้าและสมองทำงานช้าลงผิดปกติเนื่องจากว่าน้ำตาลกลูโคสเป็นแหล่งพลังงานที่ช่วยขับเคลื่อนร่างกาย
4. สายตาแย่ลง มีอาการตาพร่ามัว มองไม่ชัด
อาการสายตาพร่ามัวอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่คนที่เป็นเบาหวานส่วนมากจะพบว่า เกิดการคับคั่งของน้ำตาลในเลนส์หรือจอประสาทตาทำให้เกิดความผิดปกติ หรือเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานๆ จนทำให้เกิดความผิดปกติของจอประสาทตา อย่างไรก็ตามในผู้ป่วยบางรายอาจจะไม่ได้ส่งผลถึงสายตา แต่ในบางรายที่รุนแรงอาจทำให้ตาพร่ามัวและสูญเสียการมองเห็นชั่วขณะได้
5. น้ำหนักลดเร็วผิดปกติ
บางคนดูเหมือนจะเป็นสัญญาณที่ดีที่อยู่ๆ น้ำหนักตัวก็ลดลงอย่างรวดเร็ว แต่แท้ที่จริงแล้วอาจเกิดจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หากอยู่ๆ น้ำหนักเกิดลดลงฮวบฮาบโดยที่ไม่ได้มีการลดน้ำหนักหรือควบคุมอาหารแต่อย่างใดหรือออกกำลังกายที่ต่างจากปกติ ให้ระวังเอาไว้เลยว่านี่อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าอาจจะเป็นโรคเบาหวานได้ เพราะการที่น้ำหนักตัวลดลงเร็วผิดปกติ เนื่องจากร่างกายได้มีการเผาผลาญไขมันแทนการนำเอาน้ำตาลกลูโคสไปใช้เพื่อเป็นพลังงาน และน้ำตาลกลูโคสบางส่วนที่ถูกขับออกไปทางปัสสาวะเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผอมลงผิดปกติ อย่างไรก็ตามน้ำหนักตัวลดลงก็มีโอกาสเป็นโรคเบาหวานได้เช่นเดียวกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานบางคนกลับมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน
6. อ่อนเพลียหมดเรี่ยวแรง
ร่างกายของคนปกติจะย่อยอาหารที่รับประทานเข้าเข้าให้อยู่ในน้ำตาลกลูโคส เพื่อให้เผาผลาญเป็นพลังงานแก่เซลล์ตต่างๆ ในร่างกาย แต่เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นผิดปกติร่างกายของผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวานไม่สามารถนำน้ำตาลให้ไปใช้เพื่อเป็นพลังงานได้เพียงพอ ทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่ายและรู้สึกอ่อนเพลียมากกว่าคนปกติและมีอาการที่หิวบ่อยมากเนื่องจากว่าร่างกายขาดแหล่งพลังงานนั่นเอง
7. บาดแผลหรือรอยช้ำหายช้ากว่าปกติ
เมื่อร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงส่งผลต่อกระบวนการซ่อมแซมร่างกายที่ช้าลง เนื่องจากเกิดการสะสมของชั้นไขมันที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการไหลเวียนโลหิตไม่ดี เลือดไปเลี้ยงเซลล์อวัยวะต่างๆ ไม่ดี ส่งผลให้หลอดเลือดเกิดแข็งตัว และในกรณีที่เกิดแผลขึ้นก็จะทำให้แผลหายช้า
หากมีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้นให้สันนิษฐานไว้เลยว่านี่อาจจะเป็นสัญญาณบอกว่าคุณกำลังจะเป็นโรคเบาหวานนั่นเอง และเพื่อความแน่ใจให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการเข้าตรวจวินิจฉัยโรคอีกครั้ง และถ้าอยากห่างไกลจากโรคเบาหวานต้องหมั่นออกกำลังกายควบคุมน้ำหนักและทานอาหารที่ไม่หวานหรือมีไขมันมากเกินไปเพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคเบาหวานได้แล้ว